Steam Solenoid Valve สำหรับใช้งานกับไอน้ำและระบบทำความร้อน

ในหม้อไอน้ำและระบบทำความร้อน โซลินอยด์วาล์วไอน้ำที่มีซีล PTFE สามารถทนอุณหภูมิได้สูงสุดถึง 180 องศาเซลเซียส และมักจะมีลูกสูบโลหะเซอร์โวแข็งแทนไดอะแฟรมยางที่มีขีดจำกัดความต้านทานต่ออุณหภูมิที่ประมาณ 140 องศาเซลเซียสเท่านั้น วาล์วไอน้ำที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่อุณหภูมิสูงสามารถรองรับได้ถึง 180 องศาเซลเซียส ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง

โซลินอยด์วาล์วน้ำประกอบด้วยส่วนประกอบหลักคือขดลวด, ลูกสูบ, และปลอกหุ้ม โดยปกติในวาล์วที่ปิด, สปริงจะช่วยให้ลูกสูบอยู่ที่ปากวาล์วเพื่อป้องกันการไหลของน้ำ เมื่อขดลวดโซลินอยด์ได้รับพลังงาน, สนามแม่เหล็กที่ถูกสร้างขึ้นจะทำให้ลูกสูบยกขึ้นและเปิดทางให้น้ำไหลผ่าน ในทางตรงกันข้าม, เมื่อโซลินอยด์ไม่ได้รับพลังงานในวาล์วที่เปิดตามปกติ, ลูกสูบจะปิดปากวาล์วเพื่อหยุดการไหลของน้ำ

โซลินอยด์วาล์วไอน้ำถูกออกแบบมาเพื่อการติดตั้งในสภาพที่มีอุณหภูมิสูงระหว่าง 80°C ถึง 180°C และมักใช้ในอุตสาหกรรมหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อควบคุมไอน้ำ มันสามารถใช้ในระบบไอน้ำเพื่อจัดการการกระจายของไอน้ำ รับประกันว่าไอน้ำจะถูกส่งไปยังพื้นที่ที่ต้องการ และควบคุมการไหลของไอน้ำ นอกจากนี้ ยังใช้เพื่อรับประกันการทำงานที่ปลอดภัยของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไอน้ำ

โซลินอยด์วาล์วมีการผลิตออกมาเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ แบบปิดตามปกติ ซึ่งจะเปิดเมื่อได้รับพลังงานจากขดลวด และแบบเปิดตามปกติ ที่จะปิดเมื่อได้รับพลังงานจากขดลวด

โซลินอยด์วาล์วไอน้ำมีหลายวัสดุให้เลือก เช่น ทองเหลือง, บรอนซ์, สแตนเลส, และเหล็กหล่อ ซึ่งการใช้งานขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและสภาพแวดล้อม โซลินอยด์วาล์วสแตนเลสมักใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ในขณะที่ทองเหลืองหรือบรอนซ์มักใช้ในระบบอุตสาหกรรม เช่น เต้าเสียบหม้อไอน้ำ, เครื่องซักผ้าไอน้ำเชิงพาณิชย์, เครื่องอัดไอน้ำในร้านซักรีด, เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ, ระบบฆ่าเชื้อ, ระบบแม่พิมพ์, และระบบนึ่งความดัน

ซีลภายในของวาล์วโซลินอยด์สำหรับไอน้ำโดยทั่วไปควรจะเป็น PTFE ซึ่งสามารถทนต่ออุณหภูมิได้สูงถึง 200 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีอาจใช้ซีลอีลาสโตเมอร์ (elastomer) ที่มีราคาถูกกว่า เช่น EPDM ซึ่งมีข้อจำกัดด้านอุณหภูมิที่ต่ำกว่า คือไม่เกิน 150 องศาเซลเซียส